Page 7 -
P. 7

ี

                                                                       กาแพงเจ็ดชั น                          ซึงมีการพบตนพืชบางชนดกระจายอย่ในพืนทวิทยาลย

                                                                                                                         ้
                                                                         ํ
                                                                                                                                              ู
                                                                                                                                    ิ
                                                                                                                                                           ั
                                                                                                                                             ั
                                                                                                              ชัยบาดาลพิพัฒน มหาวิทยาลยราชภฏพระนคร อาเภอ
                                                                                                                                                        ํ
                                                                                                                                       ั
                                                                                                                             ์
             ั
      หลกการและเหตุผล                                      ชื อวิทยาศาสตร์ : Pachygone dasycarpa Kurz      ชัยบาดาล จังหวัดลพบรี พืชชนดนจึงมีความเสี ยงในการสูญ
                                                                                                                               ุ
                                                                                                                                         ี
                                                                                                                                      ิ
                                                                                               ั

                                                                           ื
                                                             ั
                                                            ลกษณะ : ไม้เถาเนอแข็ง ใบเดี ยว เรียงสลบ รูปวงรี
                                                                                                                                         ้
                                                                                                                            ั
                                                                                                                                                          ุ
                                                                                                                              ั
                                                                                                           พันธ์เป นอย่างยิ ง ดงน นจึงจําเป นตองมีการศกษาพันธกรรม
                                                                                                               ุ
                                                                                                                                                  ึ
                                                                                                   ้
                                                                                              ี
                                                          กว้าง 2.5-8 ซม. ยาว 5-12 ซม. หลงใบเกลยง ทองใบ   ตนพืชทสํารวจพบในพืนทวิทยาลยบาดาลพิพัฒน์ มหาวิทยาลย
                                                                                        ั
                                                                                                                                                              ั

                                                                                                                 ี
                                                                                                                                      ั
                                                                                                                                ี
                                                                                                            ้
                                                  ั
              ี
                     ั
        ในพืนทวิทยาลยชัยบาดาลพิพัฒน มหาวิทยาลย            มีขนนม ดอกช่อ ออกดอกทซอกใบ แยกเพศอย่คนละ

                                       ์
                                                                                                   ู
                                                                                  ี
                                                               ุ่
                                                                                                            ราชภฏพระนคร อาเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบรี ครั งนี  จึงมี
                                                                                                                                                   ุ
                                                                                                                           ํ
                                                                                                                 ั
                                                                                     ื
    ราชภฏพระนคร อาเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบรี พบว่า           ตน ดอกย่อยจํานวนมาก สีเหลอง ดอกตวเมียขนาด        ความจําเป นตอการรวบรวมข้อมลพันธกรรมของตนพืชท      ี
         ั
                                                                                             ั
                                                            ้
                    ํ
                                              ุ
                                                                                                                                        ู
                                                                                                                                                        ้
                                                                                                                        ่
                                                                                                                                              ุ
                                                                        ั
                                                                                                  ื
                                                                                           ี
                                                              ็
             ิ
   พืชบางชนด เช่น รางแดง กาแพงเจ็ดชั น และพญาราก            เลกกว่าดอกตวผู้ ผล รูปไข่มีขนละเอยดสีเหลอง     สํารวจ ซึงมีความจําเป นในการนาข้อมลทไดมาเผยแพร่ข้อมล
                             ํ
                                                                                                                                      ํ
                                                                                                                                              ี
                                                                                                                                                ้
                                                                                                                                           ู

                                                                                                                                                              ู
                                                                          ํ
                                                                                         ้
                                                                                               ํ
                                                                                       ํ
                                                                             ้
                                                                                    ั
                                                                        ์
                               ็
                                                                                                                                        ่
                                             ู
                                                                                                                 ์
       ดํา เปนตน จึงตองการเกบรวบรวมข้อมลทาง               การใช้ประโยชน : ลาตน ผสมกบลาตนสันกาแพงเจ็ด      และองคความรู้จากการสํารวจให้แกประชาชนภายในชมชนทราบ
                                                                                                                                                       ุ

                      ้
                ้
                                                                ชั น ตมนาดืม แกบวมชํ า แกกระษยเส้น
                                                                              ้
                                                                       ํ

                                                                     ้
                                                                                       ้
                                                                                            ั

                                                                                                                                                              ี
                                                                                                                                  ั
                                                                                                                                                     ้

                                                                                                                                                           ั
                                                                                                                        ุ
                                                                                                                                               ่
                                                                                                                   ้
                                      ่
                     ุ
                 พันธกรรมของพืชเหลาน    ี                                                                  เพือกระตุนให้ชมชนตระหนกและเห็นคุณคาของตนพืชน นทมี
                                                                                                                  ้

                                                                                                              ู
                                                                                                                               ้
                                                                                                            อย่ในทองถ น เพือจะไดช่วยกนดูแลรักษาและส่งเสริมการใช้
                                                                                                                                    ั
                                                                                                                      ิ
                       รางแดง                                                                                 ประโยชนและอนรักษพรรณไม้ทมีให้คงอย่แบบยั งยืน
                                                                                                                            ุ
                                                                                                                                                  ู
                                                                                                                      ์
                                                                                                                                ์
                                                                                                                                          ี
     ชือวิทยาศาสตร : Ventilago denticulata Willd.                                                         วัตถุประสงคโครงการ
      ่
                                                                                                                        ์
                                 ่
                                            ้
                       ่
   ลักษณะ: ตน ไมเถากึงไมพุม กิงออนมีขนสันๆ ใบ เดียว
                                                     ่
  เรียงสลับ รูปวงรีแกมขอบขนานหรือรูปไขแกมขอบ                                                               1. เพือร่วมสนองพระราชดําริในโครงการอนรักษพันธกรรม
                                                                                                                                                ุ

                                                                                                                                                    ์
                                                                                                                                                         ุ
                                                   ่
  ขนาน กวาง4-6 ซม. ยาว 8-14 ซม. ดอก ชอ ออกทีซอก                                                          พืชอนเนองมาจากพระราชดําริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
                                                                                                                  ื

                                                                                                               ั
  ใบ ดอกยอยจํานวนมาก กลีบดอกสีเขียวแกมเหลือง ผล                                                           สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.)
          แหง ไมแตก ดานปลายแผเป็นครีบ                                                                   2. เพือศกษาข้อมลพันธกรรมตนพืชบางชนดทพบในพืนท     ี
                                                                                                                               ุ

                                                                                                                                      ้
                                                                                                                                                ิ
                                                                                                                                                   ี
                                                                                                                          ู
                                                                                                                  ึ

  การใชประโยชน : ใบ ลนไฟตมดืมแทนใบชา หากกิน                                                             วิทยาลยบาดาลพิพัฒน มหาวิทยาลยราชภฏพระนคร อาเภอ
                                  ่
                                                                                                                               ์
                                                                                                                                                         ํ
                                                                                                                                               ั
                                                                                                                                         ั
                                                                                                                 ั
                                                                          พญารากดา
                                                                                       ํ
                           ่
   มากทําใหเลือดจาง ตมดืมแกนว เป็นยาระบาย แก                                                           ชัยบาดาล จังหวัดลพบรี
                                 ่
                                 ิ
                                                                                                                              ุ
                                                              ชื อวิทยาศาสตร์ : Diospyros variegate Kurz
                      ่
  เลือดจาง แกปวดเมือย บํารุงกําลัง ใบ กิง ตมกินแกนว   ลกษณะ : ตน เป นไม้ตน สูง 5-12 เมตร ลาตนเปลาตรง ก ง
                                         ่
                                                      ิ
                                                      ่
                                                                                            ้
                                                                                                      ิ
                                                                  ้
                                                                                          ํ
                                                                          ้
                                                          ั
    ใบ ผสมสมุนไพรอืนตมดืมแกไข ราก ขับเสมหะ                                                                ตวอย่างทนํามาใช้ในการศกษา
                                                                                                               ั
                                                                                                                        ี
                                                                                                                                        ึ
                            ่
                      ่
                                                                      ออกเกอบต งฉากกบตน
                                                                                ั
                                                                            ื
                                                                                      ั
                                                                                        ้
                                                               ี
                                                                             ี
                                                                                   ิ
                                                                         ั
                                                          ใบ ใบเดยว เรียงสลบถทปลายก ง รูปรีแกมรูปใบหอกหรือ
                                                                           ี
                                                        รูปขอบขนานแกมรูปใบหอก ปลายแหลม โคนมนและเบี ยว
                                                                      ี
                                                                                                     ื
                                                         ดอก ดอกออกเดยวตามซอกใบ สีเขียวหรือเขียวอมเหลอง
                                                                                      ึ
                                                                           ื
                                                                  ออกดอกเดอนมกราคมถงเมษายน
                                                          ผล ผลออกเป นกลุม แตละผลรูปคอนข้างกลม ขนาด 6-8
                                                                                     ่
                                                                        ่
                                                                             ่
                                                                  มิลลเมตร  ผลออนสีเขียว สุกสีแดง
                                                                     ิ
                                                                              ่
                                                                                                      ั
                                                         การใช้ประโยชน์ : เปลอก รักษาแผลในปาก ราก แกกระษย
                                                                                                 ้
                                                                          ื
                                                                                     ํ

                                                        (อาการป วยทเกดจากหลายสาเหตุทาให้ร่างกายเสือมโทรม
                                                                   ี
                                                                     ิ
                                                                                    ํ
                                                        ซบผอม โลหิตจาง ปวดเมือย) คุมกาเนิด บํารุงกาลงสําหรับ

                                                                                                 ั
                                                         ู
                                                                                               ํ
                                                                          บรุษ และแกไข้
                                                                           ุ
                                                                                    ้
                                                                                                                  สํารวจและเกบตวอย่าง พืชสามชนด ได้แก   ่
                                                                                                                                 ั
                                                                                                                              ็
                                                                                                                                                 ิ
                                                                                                              รางแดง กาแพงเจ็ดชั น และพญารากดํา ชนดละ
                                                                                                                        ํ
                                                                                                                                                     ิ
                                                                                                              4-5 ตวอย่างพร้อมท งบันทกตาแหนงบนแผนท       ี
                                                                                                                                 ั
                                                                                                                                       ึ
                                                                                                                                          ํ
                                                                                                                                               ่
                                                                                                                    ั
   2   3   4   5   6   7   8   9   10